กระเต็นน้อยตัดสินใจบินหักหลบเข้าข้างทาง พุ่งตัวลัดเลาะไปตามสุมทุมพุ่มไม้ลึกเข้าไปในป่าใหญ่ไม่ยอมหยุด บิน..บิน..และบิน ทางโน้นที ทางนี้ที กระทั่งสิ้นเรี่ยวแรงที่จะบินต่อไป...
วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นิทานชวนเพลิน 🧚♂️ กระเต็นน้อยหลงรัง
กระเต็นน้อยตัดสินใจบินหักหลบเข้าข้างทาง พุ่งตัวลัดเลาะไปตามสุมทุมพุ่มไม้ลึกเข้าไปในป่าใหญ่ไม่ยอมหยุด บิน..บิน..และบิน ทางโน้นที ทางนี้ที กระทั่งสิ้นเรี่ยวแรงที่จะบินต่อไป...
วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
กวีวัจนะ📜 ร้อยกระบวนสำนวนไทย (๑) ร่ายสุภาพ/ฉันท์
วิชชุมมาลาฉันท์
วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563
🌼โมก : หอมละมุนกรุ่นเสน่ห์ทั้ง วงศ์วาน
วงศ์ : Apocynaceae
ไม้ต้นนี้มีเพื่อนพ้องน้องพี่่ร่วมวงศ์เดียวกันเป็นไม้ดอกสวยงามมากมายเช่น ลีลาวดี บานบุรี ยี่โถ ชวนชม รำเพย ตีนเป็ดและพญาสัตบรรณฯลฯ เป็นต้น ลักษณะเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของพืชในวงศ์นี้คือ มียางเหนียว ๆ สีขาวข้นในแทบทุกส่วนของลำต้นที่จะไหลซึมออกมาทันทีที่ถูกสะกิด ซ้ำร้ายกว่านั้น ยางของไม้ในวงศ์นี้บางต้น โดยเฉพาะยางของต้นรำเพย ยี่โถ และชวนชมยังมีพิษเบื่อเมาอย่างร้ายแรง จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆ ที่อาจสัมผัสหรือเผลอรับประทานเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ไก่แก้วจับแก้วขันขาน
กระเหว่าจับกระวานส่งเสียง
เค้าโมงจับโมกมองเมียง
นกหกจับเหียงเคียงจร
วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2563
๑๑ เหตุผล💎 ทำไมสุนทรภู่จึงยืนหนึ่งในฐานะกวีเอกเสมอมา..
ย้อนความหลังครั้งเก่าเงาอดีต ทั้งจารีตประเพณีที่สูญหาย
อีกสีสรรพ์วรรณคดีที่พริ้งพราย กับลวดลายนิทานเนิ่นนานมา
เพราะหนังสือถูกทัพดิสรัปชั่น มาห้ำหั่นจนสูญหายไปต่อหน้า
จึงสืบสานพอให้รู้ผ่านหูตา ตามประสาคนเก่า..อยากเล่าให้ฟัง...
คงจะมีคนสงสัยกันบ้างว่า ทำไมกวีเอกอย่างสุนทรภู่ถึงได้รับการยอมรับและยกย่องกันเป็นอย่างมาก ทั้งที่ไทยเรามีกวีฝีมือเยี่ยมและวรรณคดีชั้นครูอยู่มากมาย วันนี้ เราจะมาดูกันว่า กระบวนกลอนสุนทรภู่มีความโดดเด่นอย่างไร ถึงทำให้ท่านยืนหนึ่งตลอดมา…..
รื่นไหลดังสายน้ำ
งดงามด้วยลีลา
อหังการ์เปี่ยมล้น
แยบยลในการเล่า
ปลุกเร้าจินตนาการ
แตกฉานในสัมผัส
เด่นชัดในในอารมณ์
อุดมสุภาษิต
สื่อชีวิตแนบเนียน
เขียนภาษาตลาด
ปราชญ์แห่งการใช้คำ
บางที นี่อาจจะเป็นบทสรุปงานของท่านภู่หรือสุนทรภู่ที่เรารู้จักกันดีในฐานะกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท่านถือเป็นกวีสี่แผ่นดิน คือเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๑ แล้วมีชีวิตอยู่ต่อมาจนถึงรัชกาลที่ ๔ ท่านเกิดและเติบโตมาในรั้ววังหลัง เพราะมีแม่เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง ตอนที่ท่านเริ่มโตเป็นโจ๋อยู่แถววังหลังนั้น เป็นช่วงต้นรัชกาลที่ ๒ ที่ถือกันว่าเป็นยุคทองของวรรณคดีไทย เพราะสังคมเริ่มสงบ เริ่มฟื้นตัวจากพิษสงครามกับพม่า มีการติดต่อค้าขายกับฝรั่ง แขก จีน ไทยไปทั่วกรุงสยามสมัยนั้น ท่านสุนทรภู่คงมีโอกาสคลุกคลีกับนักเดินทางและคนเรือสินค้าที่ขึ้นล่องผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา ท่านจึงซึมซับความรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากโลกภายนอกอย่างกว้างขวาง ประกอบกับในรั้ววังหลังก็คงมีการละเล่น ร้องรำทำเพลงกันเป็นประจำ เช่น เล่าขานวรรณคดี ขับเสภา เล่นกลอนสักวา การละครฟ้อนรำ บรรเลงมโหรีปี่พาทย์ สิ่งเหล่านี้ สุนทรภู่คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี เมื่อรวมกับนิสัยรักเรียนเขียนอ่านของท่าน จึงไม่แปลกอะไรที่ท่านจะมีความรู้แตกฉานด้านการใช้ภาษาและสามารถนำออกมาใช้อย่างเชี่ยวชาญ…
ทีนี้ มาดูกันทีละข้อว่ากลอนของสุนทรภู่มีความโดดเด่นอย่างไร
โพสต์แนะนำ
สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"
เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่ ใครมาถักทอไว้ แลไกลสุดตา เจียวเอย... ตัวฉันนั่นไง ใบ ข้าว เขียวเขียว ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว ร...
-
ตำนานเวลา สำหรับคนที่ตกอยู่ในห้วงแห่ง ความรัก ความพอใจ หรือความรื่นเริงบันเทิงมีทั้งหลายทั้งปวง อาจมีความรู้สึกว่าเวลาช่างล่วงเลยไปรวดเ...
-
เผลอไปกับเทศกาลงานฉลองช่วงลงปีเก่าขึ้นปีใหม่เพียง แว่บเดียว วันเวลาก็ผ่านเลยครึ่งเดือนแรกของปีแล้ว สมกับคำที่โบราณท่านว่าไว้จริง ๆ “เวลา...
-
อังกฤษ – ลอนดอน / ลิสบอน – โปรตุเกส / ฝรั่งเศส – ปารีส / กรีซ – เอเธนส์ / สวีเดน – สต็อคโฮล์ม/ โรม – อิตาลี / นิวเดลฮี – อินเดีย ...