คารวะนักสู้ผู้กล้าก้าว
ซึ่งปวดร้าวกับความจริงสิ่งที่เห็น
เมื่อสังคมวันนี้มีอันเป็น
เธอตอบแทนผู้ทุกข์เข็ญเหมือนเช่นเคย
กลางความวิปโยคโศกสมัย
ในหัวใจคนจริงยากนิ่งเฉย
ทุกเวลานาทีที่ผ่านเลย
ยิ่งเฉยเมยหนามเสนียดยิ่งเสียดแทง
กาลกิณีผีร้ายที่ร่ายร้อง
ขยับกรับขับทำนองเสียดแสยง
ปฎิกูลอวดกลิ่นกล้าท้าลมแรง
ยิ่งดาลเสียงสาปแช่งให้แผลงฤทธิ์
เมื่่อสาวเท้าก้าวหนึ่งหรือครึ่งก้าว
จะก้าวยาวก้าวสั้นนั่นเป็นสิทธิ์
แต่ที่หมายจักหดสั้นวันละนิด
และชีวิตย่อมสมฝันในบั้นปลาย
ขอเพียงไฟกองหนึ่งซึ่งคุกรุ่น
ย่อมเกื้อหนุนกองอื่นให้ชื่นฉาย
ไม่ทันพริบตาหกตกกระจาย
ก็ลามรายโชติช่วงทุกท่วงที
เรารอโลกก่องตระการมานานแล้ว
กลับนับวันยิ่งไร้แววแห่งศักดิ์ศรี
เหมือนหลงค่าทรุดทรามคือความดี
และหลงโลกอเวจีว่าดีพร้อม
เคยเสียเลือดเสียน้ำตามาก็มาก
เพียงแลกกากประชาธิปไตยอันผ่ายผอม
กับผีดิบหื่นกระหายที่รายล้อม
ยังจะยอมหรือจะอยู่สู้กับมัน ?!?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น