-->

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"

planetp - สารนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี

เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่
ใครมาถักทอไว้
แลไกลสุดตา  เจียวเอย...





ตัวฉันนั่นไง  ใบข้าว
เขียวเขียว
ตัวฉันนั่นไง  ใบข้าวเขียวเขียว
ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว  รวมกับพวกดาษดื่น
ล้วนญาติวงศ์พงศ์เผ่า  ชาวนา ชาวน้ำ
เขามาปัก มาดำ      จนเติบโตเป็นผืน

เขาทำกันอย่างนี้                   เกือบหมื่นปีนับได้
แถบเอเชียออกใต้                   ก่อนแพร่หลายไปที่อื่น
ว่ากันตามหลักฐาน  แค่บ้านเชียงของเรา พวกเครื่องปั้นดินเผา  คลุกแกลบข้าวยืนพื้น
ว่ากันตามหลักฐาน     แค่บ้านเชียงของเรา
พวกเครื่องปั้นดินเผา  คลุกแกลบข้าวยืนพื้น

จึงพอชี้ให้เห็น           ฉันเป็นที่รู้จัก
แต่โบราณนานนัก      ช่วยให้คนอยู่ยีน

เปรียบเสมือนเพื่อนรัก  ที่แน่นหนักกว่าใคร
มีรักจริงยิ่งใหญ่       ถึงยอมให้..เคี้ยวกลืน


จึงพอชี้ให้เห็น    ฉันเป็นที่รู้จัก   แต่โบราณนานนัก   ช่วยให้คนอยู่ยีน



ดูกันแค่หน้าตา                       ฉันอาจเหมือนหญ้าอื่นอื่น
แต่ความจริงฉันแปลก           แตกต่างตรงข้อต่อ
มี “เยื่อกันน้ำ” เหนือข้อ     กับ “ตะขอ” คล้ายเขี้ยว
ส่วนพวกหญ้าสารพัน           เขามีกันอย่างเดียว
ไม่เยื่อกันน้ำก็เขี้ยว              ประกบติด “คอใบ”

ฉันจึงชื่อว่า “ข้าว”   เป็นดวงดาวแห่งวัชพืช  เป็นยอดอาหารรสจืด   เรียก “ธัญพืช” ก็ได้


ฉันจึงชื่อว่า “ข้าว”               เป็นดวงดาวแห่งวัชพืช
เป็นยอดอาหารรสจืด            เรียก ธัญพืช ก็ได้

อันธัญพืชเขากำหนด  
มีข้าวโพด ข้าวสาลี
บาร์เลย์ ฟ่าง  แล้วฉันนี่          
เป็นพืชหัวปีพี่ใหญ่

ฉันมีฝาแฝดชื่อ “ข้าวเหนียว”  
ต่างตรงเคี้ยวก็รู้
ส่วนต้น..ใบ..ใครดู
ยากจะรู้..ต่างตรงไหน


ฉันเกิดในนา                      ชอบลืมตาในน้ำ
ดูปูปลาว่ายดำ                     เริงระบำอยู่ใกล้ใกล้ 


มีผักบุ้ง สันตะวา                 หมู่สาหร่ายหลายหลาก
ทั้งผักตบ กกขนาก              เป็นเพื่อนฝากอาศัย

เขามาขออยู่ด้วย                   ก็ต้องช่วยเขาไป
ก็เขารักฉันนี่นา...                แล้วฉันจะว่าเขา..อย่างไร

เพราะนิสัยใจดี                    จึงบางทียอมไปเกิดในไร่
บ้างอยู่บนขั้นบันได              ตามเนินไหล่ภูผา

คนเขารักฉันมาก                 จึงไม่อยากบอกปัด
ได้แต่ทนอึดอัด                   คิดถึงน้ำในนา


ก็ฉันชอบดินเย็น                  ฉันชอบเล่นน้ำ
ชอบยืดตัวตาม                   ระดับน้ำนี่นา

เมล็ดข้าวเปลือก   เขาเอาไปหว่าน ไปปลูก  งอกเป็นต้นลูก    เขาเรียก “ต้นกล้า”
ฉันจึงพอใจมาก                 หากเกิดในที่ลุ่ม
มีดินดำน้ำชุ่ม                     เป็นเรื่องธรรมดา...

เมล็ดข้าวเปลือก                 เขาเอาไปหว่าน ไปปลูก
งอกเป็นต้นลูก                    เขาเรียก “ต้นกล้า”   
 
แล้วเตรียมดินให้ราบ            ปราบหญ้าให้เรียบ
ไถ คราด จัดระเบียบ             เป็นร่องแถวรอท่า

ราวหนึ่งเดือนผ่านไป            ฉันเติบใหญ่ได้ที่
ชักเบียดเสียดเต็มที              กับน้องพี่ซ้ายขวา

พวกชาวนาเขารู้ใจ               รีบถอนไปปักดำ
ในผืนนาขังน้ำ                    สูงพอท่วมข้อขา

พอถึงเวลาฝนเยือน      ฉันกับเพื่อนก็ชื่น
เป็นแนวแถวสวยงาม            หลุมละสามสี่ต้น

เป็นเพื่อนคุยเพื่อนบ่น           ยามลมฝนไม่มาหา

พอถึงเวลาฝนเยือน              ฉันกับเพื่อนก็ชื่น

ที่ยังหลับก็ตื่น                    แข่งกันยืนต้นกล้า


เกิดเป็นปล้องเป็นข้อ            แตกเป็นหน่อเป็นใบ
มีรากฝอยเป็นใหญ่              ดูดอาหารผ่านขึ้นมา

เลี้ยงปล้องข้อต่อต้น            ให้ตั้งตนพ้นน้ำ
พอชูใบร่ายรำ                     รับลมแรง แสงฟ้า

เพราะต้นฉันมันอ่อน             จึงต้องวอนน้ำอุ้ม
มีกาบใบสาวหนุ่ม                 คอยห่อหุ้มรักษา


เพราะต้นฉันมันอ่อน  จึงต้องวอนน้ำอุ้ม  มีกาบใบสาวหนุ่ม  คอยห่อหุ้มรักษา

ใบก็คือแม่บ้าน                    ปรุงอาหารสำเร็จ
เตรียมเสบียงเบ็ดเสร็จ           ไว้ให้เมล็ดวันหน้า
คอยชวนน้ำชวนลม              ชวนแสงแดดแผดแสง
ช่วยกันปรุง เปลี่ยนเป็นแป้ง    เรียก “สังเคราะห์แสง” ..เขาว่า

เก็บแป้งขาวมาห่มเปลือก  ก่อก้อนเมือกมาห่มติด  ค่อยคลายชื้นทีละนิด พอแห้งสนิทก็แก่จัดจนวัยหวานผ่านไป             เป็นสาวใหญ่ไม่ช้า
ฉันก็เริ่มรู้สึกแก่          อยากเป็นคุณแม่เสียเต็มประดา       

ฉันเริ่มสร้างช่อ..รวงอ่อน     ในอุทรไม่รอช้า
พอถึงกำหนด หมดเวลา       ก็โผล่ออกมาจากอก

เป็นรวงแผ่ระแง้รับ               แต้มประดับด้วยดอกดก
ก่อนลับลาเป็นทารก            พราวเมล็ดกระจิริด

เก็บแป้งขาวมาห่มเปลือก     ก่อก้อนเมือกมาห่มติด
ค่อยคลายชื้นทีละนิด          พอแห้งสนิทก็แก่จัด
พร้อมให้เขาเก็บเกี่ยว ใช้ แกระ เคียว ตามถนัด  เอาไปนวด เอาไปฝัด เอาไปตาก เอาไปสี

พร้อมให้เขาเก็บเกี่ยว           ใช้ แกระ เคียว ตามถนัด
เอาไปนวด เอาไปฝัด           เอาไปตาก เอาไปสี

เป็นข้าวขาวที่เธอกิน  ผ่านรสลิ้นไปเป็นแรง   ให้ร่างกายกล้าแกร่ง  ตั้งแต่เกิดจนบัดนี้
         เป็นข้าวขาวที่เธอกิน         ผ่านรสลิ้นไปเป็นแรง
         ให้ร่างกายกล้าแกร่ง          ตั้งแต่เกิดจนบัดนี้

 ส่วนตัวฉันพลันลาลับ     หลังเสร็จสรรพภารกิจ
 พลีชีวิตเพื่อชีวิต             ถ้วนทุกทิศได้อิ่มหมี

 แต่ถึงฉันลาจาก               ก็ไม่อดอยากกันใช่ไหม
 เพราะหน่อเนื้อเชื้อไข       ฉันหว่านเอาไว้ทุกที่

ฉันจึงนอนตาหลับ             ยิ้มรับอย่างหมดห่วง
ทิ้งเรื่องหลังทั้งปวง           ไปด้วยดี....

ขาวเอย...ข้าวสวยจานใหญ่
ใครมากินทิ้งไว้        
น่าเสียดายเจ้าจริง...เจียวเอย.




1 ความคิดเห็น:

  1. เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่
    ใครมาถักทอไว้
    แลไกลสุดตา เจียวเอย...

    อีกเรื่องในชุด "ไม้ไทยใจดี" ที่เขียนให้สนพ.ปลาตะเพียนเป็นผู้จัดพิมพ์ มีคุณณัฐยา บุญมงคล เป็นผู้เขียนภาพประกอบแสนน่ารัก...

    ตอบลบ

โพสต์แนะนำ

สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"

เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่ ใครมาถักทอไว้ แลไกลสุดตา  เจียวเอย... ตัวฉันนั่นไง  ใบ ข้าว เขียวเขียว ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว  ร...