-->

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

บทกวี >> ทัณฑ์กามเทพ

เขาว่ารักสร้างหวังคนทั้งโลก  ไยบันดาลทุกข์โศกเสียยิ่งกว่า
จะก้าวเท้าก้าวหนึ่งหรือครึ่งก้าว จะก้าวยาวก้าวสั้นใช่ปัญหา สุดท้ายเมื่อพ้นผ่านกาลเวลา ย่อมสมดังเจตนาหรือปราชัย เมื่อมีหนึ่งมีสองต้องมีสาม ที่ติดตามตัวตนตั้งต้นใหม่ เดี๋ยววูบวับเดี๋ยวอับปางเดี๋ยวร้างไกล เดี๋ยวสดใสเดี๋ยวโฉดเขลาเดี๋ยวเศร้าซึม ใจเอยใจไยเจ้าจึงเขลานัก มาติดปลักเกลียวกวนอวลกระหึ่ม เผชิญคลื่นความเหงาอันเทาทึม กลางหมอกครึ้มอ้อยอิ่งชิงชวยชาย ดังวิหคปีกวิ่นบินผ่านฝน ฝ่าความมืดมัวมลอันเหน็ดหน่าย ไม่อาจกลับไม่อาจรู้อยู่หรือตาย รอเพียงพ่ายหรือพ้นจากโพยภัย รักไม่เคยปรานีที่จะรั้ง ครั้นหยุดยั้งกลับมิเกรงเร่งผลักไส ส่งไปที่เรือนหวังกำลังใจ พอเฉียดใกล้กลับทึ้งดึงกลับมา

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

บทกวี >> สื่อมารชน

สื่อมารชน  กระดาษเปื้อนหมึก
เคยเป็นเช่นกระจกเงาทุกเช้าตรู่
ส่องสัญญาณการรับรู้ผู้คนเห็น
ฉายความทุกข์ปลุกสำนึกอันลึกเร้น
จนโดดเด่นได้ชื่อ ‘สื่อสาระ’

สร้างมติมหาชนบนหยาดหมึก
จารบรรทึกสรรพปัญญาวิสาสะ
เหมือนแสงทองส่องทางสร้างพันธะ
โดยสัจจะปกปักคคนางค์

จนคืนร้าว...
แล้วจันทร์แรมก็ลัดหาวอยู่ไม่ห่าง
ขับอุษาคอยเยือนให้เลื่อนราง
ปล่อยหมอกเมฆขุ่นคว้างเข้ารุมเมือง

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

บทกวี >> พลับพลึงธาร ~ รันทดบทสุดท้าย


พลับพลึงธาร ~ รันทดบทสุดท้าย
ตะวันทอแพรแสดกลางแดดกล้า พยับพร่างมายาเริงฟ้าใส ลมพรูพัดสะบัดโบกโยกกิ่งไกว หมู่พฤกษ์ไพรเนืองนับเร่งจับจูง พลับพลึงธารบานเร้นลับกับสายน้ำ ขับลำนำบุษบากลางป่าสูง แก้วกาฮังสวยสล้างแข่งยางยูง บ้างพลัดฝูงรำฟ้อนริมหาดทราย หมู่กวางทรายร่ายรินมากินหญ้า พยัคฆาหลบเร้นเขม้นหมาย กระทิงโทนขวับเคี้ยวอยู่เดียวดาย แล้วภาพแห่งความตายก็ฉายมา ๒. เรือใบไม้ไหวสะท้านผ่านดงดิบ ยินเพียงเสียงกระซิบอันแปลบปร่า เราคือซาก..คือวิบัติ..พัฒนา จักเยือนคลองนาคาในเร็ววัน เรือใบไม้ถอนสะอื้นคืนสงัด กลางรกชัฏป่าเปลี่ยวเลี้ยวลดหลั่น เย็นน้ำใสไหลเริงเป็นเชิงชั้น ราวสวรรค์ในนิทานนานมาแล้ว

โพสต์แนะนำ

สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"

เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่ ใครมาถักทอไว้ แลไกลสุดตา  เจียวเอย... ตัวฉันนั่นไง  ใบ ข้าว เขียวเขียว ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว  ร...