-->

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

บทกวี >> มือที่ถือปากกา

มือที่ถือปากกามีค่านัก
มือที่ถือปากกามีค่านัก
ทุกรอยลักษณ์อักษรสะท้อนสิ่ง
จะเบนบิดหรือน้อมนำไขความจริง
ย่อมเอนอิงตามนิมิตแห่งจิตตน

จิตใจงามคิดความก็งามหมด
จิตใจคดก็เสื่อมเสียและสับสน
คนเป็นคนคงค่าสมค่าคน
ย่อมไม่จนใจคิดพินิจใจ

ยุคสมัยอันกำกวมต้องกล้าแกร่ง
ต้องชัดเจนแจ่มแจ้งทางที่ใช่
ไม่คลุมเครือหลอนหลอกมีนอกใน
ดังโคมไฟส่องสว่างทางสายงาม

จินตนา..คารม..คมความคิด
ถ้อยวิจิตรจากใจอันไหวหวาม
ซึ่งส่งผ่านอารมณ์เป็นคมความ
ต้องกล้าถามกล้าท้าทุกท่าที

เพื่อเผยทางสร้างสรรค์ตะวันรุ่ง
ขับม่านหมอกวันพรุ่งทุกถิ่นที่
ส่องเสี้ยนหนามรกชัฎในปัฐพี
เพื่อหลบลี้้และหาทางแผ้วถางมัน

ปากกาอาจขาดพลังไม่ดังมาก
แต่เมื่อปากต่อปากอยากรังสรรค์
เสียงก็ไพเราะดังเป็นรางวัล
อาจส่งฝันถึงวันใหม่ให้เป็นจริง

มือที่ถือปากกามีค่านัก
หากรู้จักพิทักษ์ธรรมนำทุกสิ่ง
หากบิดเบือนสัจจะหมายละทิ้ง
มันก็ยิ่งกว่าขยะสวะคน!



๑๙ กันย์ ‘๕๕
เยี่ยมชม ๐ Page...http://www.facebook.com/RaPhiPhchra?ref=hl


วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บทกวี >> แม่วงก์....แม่สะอื้น

เขียวขื่นกี่หมื่นเขียว โดนคมเขี้ยวเลื่อยยนต์บั่น
ขันแข็งแข่งเขมือบ
แล้วฝูงเหลือบก็รุมเข่น

ฟาดฟัดอย่างจัดเจน
บทผีดิบในดวงใจ

แม่วงก์..แม่สะอื้น
แม่จะยืนอยู่ตรงไหน
กลางฝุ่นและฟอนไฟ
หื่นตัณหาแห่งมานุษย์

แมงเกลื้อนแมลงกลาก
โผล่สำรากไม่หย่อนหยุด
มอดไม้ก็เร่งมุด
เขมือบไม้กันมุบมิบ

ป่าไม้ต้องรักษา
ปากก็ว่าตาขยิบ
เขม้นหมายไม่กระพริบ
แล้วป่าใหญ่ก็หายวับ


แลกสวยด้วยเขื่อนสูง
มยูรยูงอีกสัตว์สรรพ
ชีวิตอนันต์นับ
พินาศยับลงฉับพลัน


เขียวขื่นกี่หมื่นเขียว
โดนคมเขี้ยวเลื่อยยนต์บั่น
เพื่อคนกี่คนกัน
จึงสวรรค์ต้องวอดวาย

ฤาไทยต้องเลยเถิด
เตลิดล่มจนจมหาย
เมื่อนกรู้ต่างดูดาย
ไม่พร้อมพบสยบมัน...ฯ



โพสต์แนะนำ

สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"

เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่ ใครมาถักทอไว้ แลไกลสุดตา  เจียวเอย... ตัวฉันนั่นไง  ใบ ข้าว เขียวเขียว ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว  ร...