-->
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทกวี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทกวี แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทกวี >> ค่าราชการ

บทกวี >> ค่าราชการ
โลกวันนี้พัฒนาจนกล้าแกร่ง
เพราะเรี่ยวแรงคนดีช่วยชี้หนุน
มอบหัวใจใฝ่ธรรมคอยค้ำจุน
พร้อมไออุ่นให้กล้าสู้อย่างผู้ดี

บนบันไดสู่สวรรค์วันละก้าว
ต้องผ่านความปวดร้าวในหน้าที่
กี่ครั้งทน กี่หนรับความอัปรีย์
กว่าจะถึงวันนี้ที่ปลายทาง

วันที่โบกมือลาสถานภาพ
ด้วยหัวใจไร้บาปกลิ่นสาบสาง
พร้อมศักดิ์ศรีที่เห็นเด่นรางชาง
โดยสืบสร้างวางหลักนักปกครอง

เมื่อถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
คือถวายสัจจาประกาศก้อง
เราคือข้าราชการของพี่น้อง
และข้าทูลละอองของพระองค์

มีชีวิตเพียงอุทิศเพื่อหน้าที่
ปลูกความดีสัตย์ซื่อคือประสงค์
หวังเพียงรัฐพัฒนาค่ามั่นคง
สุขดำรงสยามรัฐกษัตริย์ไทย

มิใช่ข้ารัฐบาลสันดานโลภ
ผู้ถือครองความละโมบมาเป็นใหญ่
แล้วผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ามาเติมภัย
จนบ้านเมืองบรรลัยไม่เว้นวัน

พรุ่งนี้เป็นอย่างไรยังไม่แน่
แต่คนจริงจะไม่แพ้แม้ถูกหยัน
เพราะหัวใจผู้กล้าคือราชันย์
ที่สวรรค์ต้องอุ้มต้องคุ้มครอง.

บทกวี >> ค่าราชการ

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทกวี >> คนปลูกดอกไม้


บทกวี >> คนปลูกดอกไม้

และแล้วความดีกว่าก็ปรากฎ
แม้ไม่หมดความเขลาเข้ามาเพิ่ม
แต่อย่างน้อยก็ยังมีดีกว่าเดิม
ตรงดีเติมเพิ่มหวังกำลังใจ

บนเวทีที่หมายสุดปลายฟ้า
เธอคือผู้ค้นหาความหมายใหม่
คอยทอดวางสำนึกผนึกใน
เพื่อดอกไม้ดอกใหม่ได้ผลิบาน

หยาดน้ำใสทีละหยดรดใบอ่อน
ดังคำพรประโลมไล้ให้แตกก้าน
หนึ่งเป็นสอง..สองเป็นสี่ คลี่ตระการ
สะท้อนสะท้านสำนึกใหม่ให้มีเป็น

กลางความโลภ โกรธ หลง ประจงจัด
ประคองคัดความดีชี้ให้เห็น
ทีละจุด ทีละแฉก แยกประเด็น
ที่ลี้เร้นเห็นต่างกระจ่างพลัน

เราอาจต่างตามวิถีชีวทัศน์
ซึ่งมีกรอบจำกัดมีขีดขั้น
อาจบอบบางเข้มข้นที่ชนชั้น
แต่มีฝันงดงามทุกความคิด

เนิ่นนานนักหนา...
กงล้อกาลเวลาก่อจริต
เริงระบำร่ำบรรเลงเพลงชีวิต
กว่าสำนึกถูกผิดจะถึงพร้อม

คนปลูกดอกไม้...
เธอก็คือผู้ให้กระไอหอม
กำจายกลิ่นสุขสมให้ดมดอม
ดื่มดวงใจไหวน้อมด้วยยินดี

เธอทำให้คนเห็นเช่นที่หวัง
ยุติธรรมคือพลังแห่งศักดิ์ศรี
ที่มนุษย์ผู่หนึ่งจะพึงมี
และชวนชี้ให้เห็นเป็นความงาม.

บทกวี >> โลกหมุนไป ใจยังมี

บทกวี >> โลกหมุนไป  ใจยังมี
ชีวิตคนเกิดมากว่าจะดับ
เคยได้รับความรักสักกี่หน
เคยถึงพร้อมสิ่งดีดีสักกี่คน
เคยพบผ่านมารผจญกี่คน/ครั้ง

บนเส้นทางทอดยาวทุกก้าวย่าง
อาจมีบ้างบางทีที่สิ้นหวัง
เหมือนใจเจียนสิ้นแสงแห่งพลัง
ยากอยู่ยั้งหยัดยืนฝืนต่อไป

ภาพงดงามบางภาพอาจสาบสูญ
เศษขยะปฎิกูลอาจเปื้อนใส่
จนฟอนเฟะเละลึกผนึกใน
เกินห้ามใจสำนึกสะอึกเอียน

ต้องทนอยู่ดูดายความร้ายกาจ
ยอมจำนนต่ออำนาจชวนคลื่นเหียน
จำน้อมรับแม้จิตคิดอาเจียน
เพื่อสืบผลพากเพียรที่ทำมา

วันนี้ฟ้าอาจมืด...มืดสนิท
เห็นแต่ความมืดมิดทุกหย่อมหญ้า
สัมผัสผองภัยพาลละลานตา
ซึ่งถาโถมเข้ามาจนชาชิน

แต่เชื่อเถิด..ฟ้าอาจดำดูคล้ำหมอง
แต่แสงทองจักคงอยู่มิรู้สิ้น
ยิ่งมืดมาก ยิ่งใกล้สาง ยิ่งรางริน
เป็นอาจิณอยู่อย่างนี้ทุกวี่วัน

ขอจงสู้อย่างมั่นใจในภาพฝัน
ขอจงยึดถือธรรมเป็นสำคัญ
ขอตั้งมั่นในรักเป็นหลักชัย

ถึงเหนื่อยล้าก็จงล้า..แต่อย่าท้อ
ถึงต้องรอก็จงรอ..ต่อสู้ใหม่
ถึงเลือดตาแทบกระเด็น..ไม่เป็นไร
ตราบที่โลกหมุนไป..ใจยังมี

เพื่อแผ้วถางทางข้างหน้าให้ปรากฎ
เป็นเส้นทางงามงดด้วยศักดิ์ศรี
ปลุกสำนึกผู้ผ่านทางเส้นทางนี้
ให้เดินตามความดีที่พานพบ.

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

@ เปิดม่าน @


ลุกขึ้น..สินรชน
อุบัติคนย่อมเป็นคุณ
โลกหล้ากอปรการุณ
ผิว์เปลี่ยวเหงาจักเปล่าดาย

ตราบเท่ามนุษย์นี้
กำเนิดมี ณ กลางกาย
หลุมศพคือที่หมาย
ยังเวียนว่ายในวงกรรม

ไยเล่ามิเย้าโลก
เยาะวิโยคบ่เยงยำ
พำนักเพียงพักนำ
ประดารัก..ประจักษ์..รู้

โพสต์แนะนำ

สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"

เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่ ใครมาถักทอไว้ แลไกลสุดตา  เจียวเอย... ตัวฉันนั่นไง  ใบ ข้าว เขียวเขียว ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว  ร...