-->
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักษ์โลก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักษ์โลก แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2566

🌻 ประยงค์ : ผลิดอกเหมือนออกผล

ลำนำดอกไม้
            

ผลิดอกเหมือนออกผล
เหลือง..กลม..มน..กระจะกระจิด
พรูพรั่งดังเนรมิต
กระจิริดน่าติดใจ
ดอกเอ๋ย...เจ้าดอกประยงค์
เจ้าละเลยลืมหลงที่ตรงไหน
จึงไม่บานให้เห็นเช่นใครใคร
เหลือเพียงกลิ่นกรุ่นไกลให้รัญจวน...ฯ


ประยงค์ [Chinese rice flower - หอมไกล]
วงศ์ : Meliaceae

ดอกไม้..ให้คุณ
ไม้ดอกหอมต้นนี้จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับลางสาดและลองกอง ถือเป็นไม้ไทยในวรรณคดีอีกต้นหนึ่งที่กวีนิยมเขียนถึง ปรากฎในบทชมไม้ใน กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศน์ตอนหนึ่ง  รำพึงถึงต้นประยงค์ไว้อย่างเพราะพริ้งว่า
 ประยงค์ทรงพวงร้อย  ระยะย้อยห้อยพวงกรอง
เหมือนอุบะนวลละออง     เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม

ประยงค์เป็นไม้กลางแจ้ง ชอบแดด จัดเป็นไม้โตช้าต้นหนึ่ง ในบ้านเรามีประยงค์อยู่ ๓ ชนิด คือประยงค์ใบใหญ่ ประยงค์ป่า และประยงค์บ้านที่พบเห็นได้ทั่วไป 

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563

🌼โมก : หอมละมุนกรุ่นเสน่ห์ทั้ง วงศ์วาน

 

ดอกไม้หอม  "โมก" Water Jasmine       เหม่อดูหมู่แมกไม้           
        เหตุไฉนดูเศร้าหมอง
        หรือเค้าโมงที่เคยมอง
        เคยจู่จับกลับหายไป

       โมกซ้อนกลีบอ่อนหวาน
       สั่นสะท้านเหมือนจับไข้
       อ่อนระโหยด้วยโพยภัย
      ที่สาดสุมมารุมทรวง

      จากไปไม่เหลือแล้ว
      ประกายแก้วเคยห่วงหวง
      เดือนดับกับแดดวง
      แล้วพฤกษ์ไพรก็หายวับฯ 


โมก [โมกลา โมกซ้อน โมกบ้าน]
วงศ์ : Apocynaceae 
ลำนำดอกไม้  ไม้ไทยกลิ่นหอมพิสุทธิ์..โมก
            ไม้ต้นนี้มีเพื่อนพ้องน้องพี่่ร่วมวงศ์เดียวกันเป็นไม้ดอกสวยงามมากมายเช่น ลีลาวดี บานบุรี ยี่โถ ชวนชม รำเพย ตีนเป็ดและพญาสัตบรรณฯลฯ เป็นต้น ลักษณะเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของพืชในวงศ์นี้คือ มียางเหนียว ๆ สีขาวข้นในแทบทุกส่วนของลำต้นที่จะไหลซึมออกมาทันทีที่ถูกสะกิด ซ้ำร้ายกว่านั้น ยางของไม้ในวงศ์นี้บางต้น โดยเฉพาะยางของต้นรำเพย ยี่โถ และชวนชมยังมีพิษเบื่อเมาอย่างร้ายแรง จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆ ที่อาจสัมผัสหรือเผลอรับประทานเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

https://planetpt.blogspot.com/
            โมก..เป็นไม้ที่อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยมานานแล้วเฉกเช่นเดียวกับไม้ไทยโบราณอื่น ๆ หลายต้น บทประพันธ์เกี่ยวเนื่องถึงไม้โมกและไม้โมกมันที่ปรากฎอยู่ในวรรณคดีไทยก็่มีหลายต่อหลายเรื่องเช่นกัน อย่างเช่นในบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่่ ๑ เรื่อง “รามเกืยรติ์” ที่ว่า

        ไก่แก้วจับแก้วขันขาน
        กระเหว่าจับกระวานส่งเสียง
        เค้าโมงจับโมกมองเมียง
        นกหกจับเหียงเคียงจร

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

🌸 เล็บมือนาง : เล็บนางนามแม่นี้..มีนัย

ลำนำดอกไม้  เล็บมือนาง [Rangoon Creeper]

เล็บมือนางสะอางโฉม
ยามลมโลมกลางฟ้าใส
กิ่งก้านแม้แกว่งไกว
ยังชูช่ออรชร
แรกขาวแล้วพราวผ่าน
สู่แดงฉานไม่หยุดหย่อน
ผีเสื้อ..หมู่ภมร
เข้าจู่จับระยับตา...ฯ

เล็บมือนาง [Rangoon Creeper]
วงศ์ : Combretaceae

          พันธุ์ไม้โบราณดอกหอมของไทย  รู้จักกันดีอย่างน้อยตั้งแต่สมัยกลางยุคกรุงศรีอยุธยามาแล้ว จัดเป็นไม้ไทยในวรรณคดีที่มีการพรรณาถึงดอกเล็บมือนางอยู่หลายเรื่อง ดังปรากฎในลิลิตพระลอว่า..
          
"เล็บมือนางนี้ดั่ง    เล็บนาง เรียมนา
ชมม่านนางหวังต่าง        ม่านน้อง
ชมพูสไบบาง                   นุชคลี่ ลางฤา
งามป่านี้ไม้ปล้อง             แปลกปล้องคอศรีฯ

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

🌼 แก้ว : แพรพรรณบนเนื้อไม้

ลำนำดอกไม้  แก้ว  (Orange jasmine)

รวยรินกลิ่นกรุ่นพิกุลแก้ว
เจื้อยแจ้วสกุณาจ้าเสียง
เซ็งแซ่หาคู่มาเคียง
จำเรียงลำนำช้ำรัก
ป่านนี้เจ้าไปไกลที่ไหนหนอ
ปล่อยให้คนรอต้องทุกข์หนัก
โศกเศร้าเจียนตายช่างร้ายนัก
เหมือนหนามปักกลางใจไม่หน่ายพิษ..ฯ

แก้ว [Andaman Satinwood]
วงศ์ : Rutaceae
ดอกไม้..ให้คุณ


            
          เคยฟังเพลงที่ศิลปินล้านนาผู้โด่งดัง "จรัล มโนเพชร" เคยประพันธ์และขับร้องไว้อยู่้เพลงหนึ่ง ชื่อเพลง "น้อยไจยา" มีเนื้อความตอนหนึ่งว่า 'ดอกพิกุลก็คือดอกแก้ว'  ก็ให้สงสัยตงิด ๆ เลยไปค้นดู  ครับ..คนทางภาคเหนือเรียกดอกพิกุลว่า ดอกแก้ว จริง ๆ  ส่วนดอกแก้วที่เรารู้จักกันกลับไพล่ไปเรียกว่า แก้วพริก..

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

บทกวี >> พลับพลึงธาร ~ รันทดบทสุดท้าย


พลับพลึงธาร ~ รันทดบทสุดท้าย
ตะวันทอแพรแสดกลางแดดกล้า พยับพร่างมายาเริงฟ้าใส ลมพรูพัดสะบัดโบกโยกกิ่งไกว หมู่พฤกษ์ไพรเนืองนับเร่งจับจูง พลับพลึงธารบานเร้นลับกับสายน้ำ ขับลำนำบุษบากลางป่าสูง แก้วกาฮังสวยสล้างแข่งยางยูง บ้างพลัดฝูงรำฟ้อนริมหาดทราย หมู่กวางทรายร่ายรินมากินหญ้า พยัคฆาหลบเร้นเขม้นหมาย กระทิงโทนขวับเคี้ยวอยู่เดียวดาย แล้วภาพแห่งความตายก็ฉายมา ๒. เรือใบไม้ไหวสะท้านผ่านดงดิบ ยินเพียงเสียงกระซิบอันแปลบปร่า เราคือซาก..คือวิบัติ..พัฒนา จักเยือนคลองนาคาในเร็ววัน เรือใบไม้ถอนสะอื้นคืนสงัด กลางรกชัฏป่าเปลี่ยวเลี้ยวลดหลั่น เย็นน้ำใสไหลเริงเป็นเชิงชั้น ราวสวรรค์ในนิทานนานมาแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บทกวี >> ฤาโลกนี้มีแต่ฝันอันเหลือร้าย

นี่คือการทวงสิทธิ์ครั้งสุดท้าย เพื่อสืบลมหายใจให้พี่น้อง
ฤาโลกนี้มีแต่ฝันอันเหลือร้าย
ทุกสิ่งจึงดูสายไม่เหลือสวย
ฤาดิน ลม น้ำ ฟ้า ถึงคราม้วย
จึงโลกรวยความทุกข์ขุกเข็ญนัก

แก้วเจ้าจอม บานบุรี คลี่กลีบหม่น
ชเลชลฝูงปลาผวาหนัก
พรมพฤกษาร่ำไห้ยามทายทัก
หรือโลกนี้ป่วยหนักจนรักล้า

จึงมีแต่การทำลายไม่วายเว้น
มีแต่การฆ่าเข่นทุกหย่อมหญ้า
ทั้งผีเสื้อ เนื้อ หนอน สกุณา
ล้วนย่อยยับอัปราเพราะมือเรา

ฤาโลกนี้ไม่มีคนดีแล้ว
เพชรจึงไม่พราวแพรวเหมือนก่อนเก่า
ฤาความดีมัวไล่งับจับเงื้อมเงา
จนซึมเศร้า ดีไม่ได้.. ไปไม่เป็น

เหลือเพียงการวาดหวังที่ยังอยู่
เหลือเพียงแค่ทนดูทนรู้เห็น
อยากยืนรับลมชื่นคืนเดือนเพ็ญ
อยากกล่อมโลก ใจเย็นเย็น.. อย่าเพิ่งตาย

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เพลง [s] ดิน...น้ำ...ลม...ไฟ.

ดิน น้ำ ลม ไฟ     รินน้ำใจให้คน

โค้งฟ้า ขุนเขา ทะเลไกล        โชนไฟดวงตะวัน
สายน้ำซัดเซาะดิน            ลมเย็นพัดแผ่ว
ลึกลึก สูงสูง ล้อมเป็นแนว        รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
กอดเกี่ยวเกิดพลังแห่งดินฟ้า
 
    ลำธารไหลริน        แผ่นดินเย็นชื่นฉ่ำ
        กลายเป็นไม้งาม    ชีวิตงอกเงย
            ตะวันทอแสงสาด    ลมพัดรำเพย
                เป็นเนืองนิตย์        อุทิศให้คน...
 
        ดิน น้ำ ลม ไฟ     รินน้ำใจให้คน
        ดิน น้ำ ลม ไฟ    จะมีใครทดแทน
 
โค้งฟ้า ขุนเขา ทะเลไกล        ใครมีใจอย่างเธอ
เขาคิดร้ายคิดดี            เธอก็มีรักตอบ
คึกคัก ครึกครื้น ทุกคืนวัน        ยืนยันแรงศรัทธา
สืบกฎธรรมดาแห่งชีวิต... 

ดิน น้ำ ลม ไฟ     รินน้ำใจให้คน
        ดิน น้ำ ลม ไฟ    จะมีใครทดแทน
        ดิน น้ำ ลม ไฟ     มีรักจริงยิ่งใหญ่
        ดิน น้ำ ลม ไฟ    จะมีใครเหมือนเธอ...

โพสต์แนะนำ

สาระนิทาน ชุด ไม้ไทยใจดี 🍽 เรื่อง "ข.ข้าว ขาว ขาว"

เขียวเอย...เขียวพรมผืนใหญ่ ใครมาถักทอไว้ แลไกลสุดตา  เจียวเอย... ตัวฉันนั่นไง  ใบ ข้าว เขียวเขียว ยืนต้นเดี่ยวเดี่ยว  ร...